Data Collection คิดก่อนเก็บ ในยุค big data เป็นของฮิต (DMP concept)

Photo by Lukas on Pexels.com

ตอนนี้ใครๆก้อบ้าพูดถึง big dataถ้าเอาภาษาแบบบ้านๆ ก้อคือ การเก็บข้อมูล ของคนที่เรายังไม่รู้จักเค้า หรือ รู้จักเค้าแล้วในฐานะ ลูกค้า หรือ สมาชิก เอามาทำการสื่อสารกับเค้าอีกครั้งในแบบที่ไม่ใช่หว่านแห เพื่อให้ได้ผลอะไรบางอย่าง เช่น จะ up / cross sale หรือ จะให้สิทธิพิเศษ แบบไม่พร่ำเพรื่อ แบบโดนใจ อันนี้ก้อแล้วแต่

ทีนี้จะเริ่มต้นยังไงดี

อย่างแรก ที่ เราไว้เก็บข้อมูล ถ้าคุยกะพวก it ที่ออฟฟิศ เค้าจะเรียกมันว่า DMP (DATA MANAGEMENT PLATFORM) มันเป็นเหมือนถังไว้เก็บทุกสิ่งอย่างที่เรากำหนดไว้ตอนแรก นั่นแหละ ไอ้นี่ เอาไว้เก็บ อย่างเดียวนะ มันยังไม่มีสมอง ยังเอามาทำไรยังไม่ได้

ต่อไป ต้องเก็บอะไรตรงไหนบ้าง

จริงๆ ข้อมูลมันมีเต็มไปหมดแหละ ที่จะบอกนี่มันก้อส่วนหนึ่ง ตามแต่ที่ธุรกิจเราจำเป็น

1. ข้อมูล จากเว็ปของเราเอง – สิ่งที่ต้องเก็บเนี่ยนะ ไม่ได้สนใจแค่หน้าคอนเทนท์ที่เข้าไปอ่านนะ แต่เราควรเก็บ พฤติกรรม ( ขอเรียกว่า event) ที่เค้าทำ มันจะสำคัญกว่า เช่น ระยะเวลาของการเปิดหน้าเว็ป จำนวนหน้าเวปที่เปิด ถ้าเป็นบริการ เช่น ใครมาลองเล่น ออกแบบเสื้อผ้าด้วยตัวเอง การคำนวณภาษี ลองเข้ามาคลิ้กเปลี่ยนสีรถ ลองเอาเฟอร์นิเจอร์มาวางในห้องที่ถูกออกแบบเป็นสามมิติ อีพวกนี้สำคัญมาก เพราะนางคือ truly intender คือสนใจในแบรนด์จริงจัง ยิ่งถ้าเวปไหนมีการเก็บสมาชิก โดยใช้ Facebook login ยิ่งได้ข้อมูล profile มาได้ลึกเข้าไปอีก

2. ข้อมูลจาก social – อันนี้ต่อจากข้อแรก แต่จะต่างกันตรงที่อาจจะไม่เป็นคนเดียวกันก้อได้ เพราะคนที่ login ในเว็ป อาจจะไม่ได้ เป็นเพื่อนบนเฟส ก้อได้ถูกป่ะ ทีนี้ข้อมูลบนโซเชี่ยล เราคงไม่ได้สนใจชื่อเสียงเรียงนามของเค้า แต่เราสนใจข้อมูล profile & interested ของเค้ามากกว่าจริงป่ะ อีกอันนึงที่ต้องเก็บคือ ใครบ้างที่มา interactive กะเพจเรา เพราะเค้าคือ truly intender ของเราอีกเช่นกัน นี่ยังไม่ลงลึกนะ ว่ามาชอบหนือมาด่า อันนั้นค่อยว่ากัน

3. ข้อมูลจากเว็ปพาร์ทเนอร์ อันนี้คือถ้ามีนะ รวมถึง ระบบ crm ของข้างในบริษัทเองด้วย เพราะหลายที่แยกข้อมูลก้อนนี้ออกมาเป็นเอกเทศ ไม่เอาไปรวมกับ ข้อ 1 ด้านบน เพราะ อันนี้จะมาแนว hard core customer เลย ซึ่งเราควรเรียนรู้พฤติกรรมเชิงลึก ของเค้า

จะเห็นว่าข้อมูลทั้ง สามส่วนที่บอกอ่ะ เราไม่ได้สนใจแค่เชิงปริมาณ เพราะ ระดับของการ engage กะแต่ละจุด สำคัญกว่ามาก ถ้าเราลงโฆษณา โดยสนใจแค่คนที่เคยเข้ามาในเว็ปแล้วติด คุ้กกี้ คนนั้น อาจจะสำคัญน้อยกว่า คนที่เคยเข้ามาลองเล่นบริการของเราแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจ เป็นสมาชิก ถูกป่ะ

ได้ข้อมูลมาแล้วใช้งานยังไง

1. ของมาเพียบ ใจเย็นๆ เราควรแยกกลุ่มลูกค้า เป็น segment ก่อน เช่น กลุ่มที่เข้ามาแค่ดู ส่อง (awareness) หรือกลุ่มที่เข้ามาลองเล่นบริการ (appeal) แต่ยังไม่ซื้อ, กลุ่มที่รักแบรนด์ในโซเชียล แต่ยังไม่เป็นลูกค้า (truly intenderor brand advocacy) หรือ คนที่เข้ามาบนเว็ป ลองเลือกสินค้าเข้าตระกร้า แต่ไม่คลิ้กจ่ายเงิน สักที … จะเห็นว่าเราสนใจ พฤติกรรมของพวกเค้า มากกว่า แค่มาวิวหน้า

2. ก้อรู้แล้วว่านางคือใคร มีจำนวนเท่าไหร่ เราก้อควรจะออกแบบ message หรือ แคมเปญ หรือ โปรโมชั่น ให้เหมาะกับพวกเค้า เช่น คนที่เลือกซื้อสินค้าลงตระกร้าแต่ไม่จ่ายเงิน ควน offer ด้วย โปร เพื่อเร่งการซื้อ หรือ พวกที่เค้ามาส่อง แต่ยังไม่เป็นลูกค้าควรส่ง trail campaign ให้กับนางดู

นี่เป็นคร่าวๆ การใช้ข้อมูล แต่ยังไงก้อต้องเริ่มต้นจากการเก็บที่ดีก่อน ถึงจะได้ข้อมูลที่เริดๆ

เจตน์เมริน จัดให้

Leave a comment