ได้ไปเยี่ยมออฟฟิศ Facebookที่สิงคโปร์ เลยได้มีโอกาสได้เห็นตัวอย่างของ Facebook Brand Purpose ที่สะท้อนออกมาในอณูต่างๆของออฟฟิศและสร้างวัฒนธรรมขององค์กร ที่ทำให้เป็นองค์กรที่มีคนอยากทำงานด้วยมากมาย

Mission ของ Facebook คือ การให้อำนาจในมือของเราในการสร้างชุมชน หรือสังคมกลุ่มย่อย และทำให้คนในโลกใกล้กันมากขึ้น (give people the power to build community and bring the world closer together) ดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่สวยหรูเพราะเราคุ้นชินกับการใช้ Facebook เพื่อ closer together เฉยเฉย แต่จริงๆแล้ว Facebook มีโครงการอีกมากมายที่ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น เช่น เราอาจคุ้นชินกับ “safety check” เวลาที่เกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวในที่ต่างๆเราก็เข้ามารายงานตัวว่าเรายังปลอดภัยอยู่ “blood donation tool” ในบางประเทศ Facebook มี featureนี้เพื่อที่จะขอรับบริจาคโลหิตโดยด่วนหรือแม้กระทั่งการระดมทุนเพื่อการกุศลต่างๆผ่าน แพลทฟอร์ม นี้

นี่คือการใช้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อทำให้สังคมเห็นถึง ความจำเป็นของการมีอยู่ของ แบรนด์ แบรนด์หนึ่ง นี่เป็นเทรนใหม่ ที่เกิดขึ้นในการทำแบรนด์ในโลกยุคใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การทำ csr ที่โครงการต่างๆไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง การใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยโลก หรือสังคมต่างหากที่เป็นเหตุผลของการมีอยู่ของแบรนด์ แบรนด์นั้น brand with purpose

สิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนและสร้างอัตราเร่งให้กับพันธกิจของแบรนด์คือ “brand value” ซึ่งสำหรับ Facebook มีอยู่ห้าข้อ ที่แปลกและไม่เหมือนกับองค์กรทั่วไป ในไทยคือ ไม่ได้เน้นเรื่องของ ความร่วมมือความสัมพันธ์ของคนมากนัก แต่เน้นที่การสร้างผลลัพธ์ของงานร่วมกันมากกว่า

1. Build Social Value สะท้อนค่านิยมและการเกิดขึ้นเพื่อเชื่อมคนเข้าหากันและสอดคล้องกับ Brand Mission อย่างดี

2. Move fast ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคำว่า Economy of Scale มัน out ไปแล้วโลกใบนี้อยู่ด้วย Economy of Speed เรียกได้ว่าเก่งไม่กลัวกลัวช้าเพราะคุณคิดออกเหมือนกันแต่คนที่ทำได้เร็วกว่าปรับปรุงได้เร็วกว่าจะเป็นผู้ชนะ

3. Be bold กล้าทำและใจถึง อย่ามัวแต่คิด ยิ่ง ผสานกับ agile work ด้วยแล้ว มันยิ่งตอบสนองได้ไว ผิดพลาดได้ แก้ไขได้ไว ถ้าไอเดียไม่เวิร์คก็เลิกทำได้ เช่นกัน

4. Be open พี่มาร์ค เชื่อว่า feedback is the gift เพราะคนที่ให้ฟิตแบตก็ให้ด้วยความรักเราเช่นกัน

5. Focus on impact เราทำทุกอย่างในโลกไม่ได้ เราถึงต้องเลือกทำในสิ่งที่สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ แรงที่เสียไปไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่เราก็เสียไปอย่างเท่ากัน

จากแบรนด์ value ทั้งห้าข้อบวกกับเทคโนโลยีที่ทำให้โลกของ Facebook และพนักงานทั่วโลกเข้าถึงกันง่ายขึ้นจึงช่วยให้เพื่อนก่อนเป็นไปได้ความรวดเร็วตามคุณค่าที่แบนต้องการ สิ่งหนึ่งที่ชอบมากในการตกแต่งออฟฟิศของ Facebook ที่เหมือนกันในทุกทุกประเภทคือ poster Culture ซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของคนในออฟฟิศด้วยกันและมีการพร้อมที่จะเปลี่ยนและตลอดเวลารวมถึงห้องและพื้นทำจากรากไม้ส่วนประกอบ Facebook เชื่อว่าไม่มีสิ่งไหนที่สมบูรณ์แบบเราจึงต้องเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ “DONE better than PERFECT”.