Information By Neilson IQ

1. State of Consumers: ผู้บริโภคยังรู้สึกไม่มั่นคงกับสถานการทางการเงินของตัวเองมากขึ้น เนื่องจากสภาวะการทางเศรษฐกิจที่ยังไม่คงที่ ตั้งแต่ที่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงข้าวของที่แพงขึ้น โดยเฉพาะราคาอาหาร โดย 10 เรื่องที่คนให้ความกังวลสูงสุด ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มการบริโภคในปี 2025 คือ
   • ราคาของสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
   • ราคาของอาหารที่สูงขึ้น
   • การถดถอยทางเศรษฐกิจ
   • ราคาของการเดินทาง และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
   • โลกร้อน และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะสร้างให้เกิดค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง
   • อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
   • ความมั่นคงในการจ้างงาน
   • ราคาของ ค่าเช่าบ้าน ที่สูงขึ้น
   • ผลกระทบจากโควิด
   • สวัสดิการของครอบครัว
2. Consumer Drivers แม้ว่าจะมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคก็ยังคงใช้จ่ายอยู่ โดยมีการจัดเรียง priority ในการใช้จ่ายมากขึ้น FMCG ยังคงเติบโต 5% แต่เปลี่ยนโหมดเป็น purpose-driven spending mindset มากขึ้น นั่นไม่ได้แปลว่าเค้าหาของที่ถูก แต่หาของที่ราคาตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งานมากขึ้น Intentional planning shopper เตรียมความพร้อมเสมอ / resilient / savings consumption  ประสิทธิภาพสินค้า ตรงปก
3. Financial Polarization ในเมื่อเศรษฐกิจไม่แน่นอน และยังคงต้องการมีความบริโภค ซึ่งหากแบ่ง ผู้บริโภคออกมาเป็น 5 กลุ่มตาม financial conditions
   • thrivers มีเพียง 6% กลุ่มนี้มีความมั่นคงในเรื่องการเงินและการออมเรียบร้อย เริ่มมีแนวคิดของการทำ wealth tranfer สู่ next generation
   • unchanged กลุ่มนี้ เติบโตขึ้นจาก 8% to 14% ในปี 2024 กลุ่มนี้เองที่มีผลต่อการเติบโตของการบริโภคอยู่
   • caution มีอยู่ 32% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเศรษฐกิจ แต่มีภาวะเฝ้าระวัง การใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก
   • Rebounders กลุ่มนี้เติบโตจาก 21% to 28% เลยทีเดียว กลุ่มนี้เคยเจอภาวะว่างงาน ดังนั้นพอกลับมาได้ กลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะหารายได้เสริมมากกว่างานประจำของตัวเอง
   • Strugglers ยังสูงถึง 21% ที่ยังคงต้องแก้ไขความมั่นคงทางการเงินของตัวเองอยู่
     • และมี 3 แนวโน้มที่สำคัญที่เป็นแนวโน้มการบริโภค
     • 1. in home entertainment มีแนวโน้มเติบโตสูงมากขึ้น บริการที่เป็น life essential สำหรับการอยู่บ้าน เช่น อินเตอร์เนต, สตรีมมิ่ง ยังคงเติบโตอยู่
     • 2. วางแผน ก่อนออกไปช้อปปิ้ง เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของตัวเอง
     • 3. avoid waste ซื้อแต่ของที่จำเป็นก่อนนะจ๊ะ
4. Redefining discount: การให้คำนิยามของคำว่า value ใหม่ ที่แตกต่างจาก discount (เช่น การยอมรับ private label เพิ่มมากขึ้นในสินค้า อุปโภคบริโภค) ต้องมีปัจจัยที่ประกอบรวมกัน เช่น affordability+ innovation+ health + sustainability+ homemade element ซึ่งจะทำให้คนยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เพื่อความสะดวกสบาย และ ความพึงพอใจในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น
5. Trends to watch:
   • The New face of Omni Channel – โดยเฉพาะในผู้บริโภค Gen Z ที่ต้องการประสบการณ์ก่อนซื้อสินค้า แต่อาจจะไม่ซื้อเลยนะจุดขาย แต่ยังมองหา deal ที่ดีที่สุด … retail store จึงต้องคิดมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดการซื้อได้เลย และ data มีการสอดรับกันทุก touch point.
   • Readiness for AI – ไม่ใช่แค่เรื่องความอัจฉริยะ แต่เป็น data privacy ที่จะทำให้คนมีความระวังมากขึ้นในการวางข้อมูลส่วนตัว หรือ digital footprint ไว้บนโลกออนไลน์
   • Shifting Commodity price – เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น ทำยังไงให้คนรู้สึกคุ้มค่า เช่น ทำ pack size ให้ใหญ่ขึ้นมั้ย หรือทำเป็น refilling